หน้าแรก
เว็บบอร์ด
ค่าบริการ
บทความ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
หน้าแรก
>
บทความ
>
พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2…
พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562
4 ปีที่ผ่านมา
โดย
เจ้าของร้าน
พระราชบัญญัติ โรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้
เพื่อให้ การควบคุมดูแลการประกอบกิจการโรงงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ในการรักษา
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และความปลอดภัยสาธารณะ
ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้ สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “มาตรา ๔/๑ ให้รัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอ านาจประกาศก าหนดให้โรงงานดังต่อไปนี้ ได้รับยกเว้นจากการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด
(๑) โรงงานของทางราชการ นอกจากโรงงานที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๔
(๒) โรงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิจัย
(๓) โรงงานของสถาบันการศึกษาในส่วนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกอบรม
(๔) โรงงานที่ด าเนินงานอันมีลักษณะเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว
(๕) โรงงานที ่ด าเนินงานอันมีลักษณะที ่จ าเป็นและเกี ่ยวเนื ่องกับกิจการที ่มิใช ่โรงงาน
ตามพระราชบัญญัตินี้และตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ”
มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในบทนิยามค าว่า “โรงงาน” และ “ตั้งโรงงาน”
ในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ““โรงงาน”
หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวม
ตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าหรือกำลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป
โดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามเพื่อประกอบกิจการโรงงาน ทั้งนี้ ตามประเภทหรือชนิดของโรงงาน
ที่กำหนดในกฎกระทรวง “ตั้งโรงงาน” หมายความว่า การนำเครื่องจักรสำหรับประกอบกิจการโรงงานมาติดตั้งในอาคาร
สถานที่ หรือยานพาหนะที่จะประกอบกิจการโรงงาน หรือนำคนงานมาประกอบกิจการโรงงานในกรณี ที่ไม่มีการใช้เครื่องจักร ”
มาตรา ๕ ให้เพิ่มบทนิยามค าว่า “ผู้ตรวจสอบเอกชน” ระหว่างบทนิยามค าว่า “ใบอนุญาต ”
และคำว่า “พนักงานเจ้าหน้าที่” ในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “
“ผู้ตรวจสอบเอกชน” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามพระราชบัญญัตินี้ ”
มาตรา ๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และ
ให้มีอ านาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงก าหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้าย พระราชบัญญัตินี้
ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่น กับออกประกาศเพื่อปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้
การออกกฎกระทรวงก าหนดค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง จะก าหนดอัตราค่าธรรมเนียม
ให้แตกต่างกันโดยค านึงถึงประเภท ชนิด หรือขนาดของโรงงานก็ได้
กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ ”
มาตรา ๗ ให้ยกเลิกความใน (๒) ของมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๒) โรงงานจ าพวกที่ ๒ ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการ
โรงงานต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน ”
มาตรา ๘ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “
มาตรา ๙ ในกรณีที่บทบัญญัติใดแห่งพระราชบัญญัตินี้ก าหนดให้ต้องมีการตรวจสอบโรงงาน หรือเครื่องจักร
หรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง อาจกำหนดให้ผู้ตรวจสอบเอกชนดำเนินการ
และจัดทำ รายงานผลการตรวจสอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้
ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรี กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ในกรณีที่บทบัญญัติใดแห่งพระราชบัญญัตินี้ก าหนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานมีหน้าที่ต้อง
ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้ประกอบกิจการโรงงานมีหน้าที่ต้องเสนอรายงานผลการปฏิบัติการที่ได้
ดำเนินการและได้รับการรับรองจากผู้ตรวจสอบเอกชนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเอกชน
ตามวรรคหนึ่งและวรรคสองต้องได้รับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองจาก ผู้อนุญาต
การขอรับและการออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง วิธีการตรวจสอบ กำหนดเวลาใน การตรวจสอบ
การจัดทำรายงานผลการตรวจสอบ การรายงานและก าหนดระยะเวลาการเสนอรายงานผล
การปฏิบัติการของผู้ประกอบกิจการโรงงาน และการให้คำรับรอง รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าบริการตรวจสอบ
หรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ”
มาตรา ๙ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๙/๑ มาตรา ๙/๒ มาตรา ๙/๓ มาตรา ๙/๔ มาตรา ๙/๕ และมาตรา ๙/๖
แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “มาตรา ๙/๑ ผู้ขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรหรือใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
และมีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่าห้าปีในงานที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านสิ่งแวดล้อม
ด้านความปลอดภัย ด้านสารเคมี ด้านไฟฟ้า ด้านพลังงาน ด้านเครื่องกล ด้านโยธา
หรือด้านอื่น
ที่เกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรมด้านหนึ่งด้านใดก็ได้
ทั้งนี้ การนับระยะเวลาของประสบการณ์การทำงาน ในแต่ละด้านนั้น ให้สามารถนำมารวมกันได้
(๓) ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบความรู้ด้านการตรวจสอบหรือรับรองโรงงานหรือเครื่องจักร
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. ลักษณะต้องห้าม
(๑) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตหรืออยู่ในระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์
(๒) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๓) เป็นผู้เคยต้องค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกเนื่องจากเป็นผู้กระท าความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงงาน
เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีก่อนวันยื่นค าขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
(๔) ต้องค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(๕) เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกร หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(๖) เป็นผู้เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจเพราะกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงมาตรา ๙/๒ ผู้ขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองซึ่งเป็นนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจหรือให้บริการเกี่ยวกับ
การตรวจสอบหรือรับรองโรงงานหรือเครื่องจักร และต้องมีทุนจดทะเบียนหรือหุ้นที่ชำระแล้ว
ที่มีมูลค่า ไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
(๒) หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการ หรือสมาชิกในคณะผู้บริหารของนิติบุคคลอย่างน้อยหนึ่งคน
ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑
(๓) มีผู้ตรวจสอบเอกชนซึ ่งมีคุณสมบัติและไม ่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑
ตามจ านวนที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดปฏิบัติงานประจ าอยู่ในนิติบุคคลนั้น
(๔) ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหน่วยตรวจสอบหรือหน่วยรับรอง
ในขอบข่ายทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านความปลอดภัย ด้านสารเคมี ด้านไฟฟ้า ด้านพลังงาน ด้านเครื่องกล ด้านโยธา
หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรม
ข. ลักษณะต้องห้าม
(๑) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตหรืออยู่ในระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์ หรือฟื้นฟูกิจการ
(๒) เป็นผู้เคยต้องค าพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระท าความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
เว้นแต่เป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว
(๓) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ ข. (๕) มาตรา ๙/๓ ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙
ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปีปฏิทิน แห่งปีที่สามนับแต่วันที่ออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
ผู้ตรวจสอบเอกชนซึ่งประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
ให้ยื่นค าขอต่ออายุ ใบอนุญาตก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวัน
และให้ผู้อนุญาตพิจารณาต่ออายุใบอนุญาต ให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับค าขอต่ออายุใบอนุญาต
การขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๙/๔ ในกรณีที่ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองสูญหาย ช ารุดในสาระส าคัญ หรือ ถูกท าลาย
ให้ผู้ตรวจสอบเอกชนยื่นค าขอรับใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองต่อผู้อนุญาต
ภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบถึงการสูญหาย ช ารุด หรือถูกท าลาย
การขอรับและการออกใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๙/๕ ผู้อนุญาตมีอ านาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
เมื่อปรากฏว่าผู้ตรวจสอบ เอกชนผู้ใดมีพฤติการณ์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ โดยผู้อนุญาตแจ้งเตือนเป็นหนังสือให้ปฏิบัติ
ให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่ก าหนดแล้ว แต่ไม่มีการปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว
(๒) รายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองผิดพลาดจนเป็นเหตุให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีการออกค าสั่ง
ตามมาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๙ การสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามวรรคหนึ่ง
ให้มีก าหนดครั้งละไม่เกินเก้าสิบวัน และในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตอีกไม่ได้
การออกหนังสือเตือนและการสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๙/๖ ผู้อนุญาตมีอ านาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
เมื่อปรากฏว่า ผู้ตรวจสอบเอกชนนั้น
(๑) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ หรือมาตรา ๙/๒
(๒) เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองมาแล้วรวมสามครั้งภายในก าหนดระยะเวลา สองปี
(๓) จัดท ารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙ อันเป็นเท็จ
ผู้ตรวจสอบเอกชนซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งจะขอรับใบอนุญาตอีกไม่ได้จนกว่า
จะพ้นสองปีนับแต่วันที่ทราบค าสั่ง การเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข ที่ก าหนดในกฎกระทรวง ”
มาตรา ๑๐ ให้ยกเลิกมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
มาตรา ๑๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ และมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๑๖ ค าสั่งไม่ออกใบอนุญาต ค าสั่งไม่อนุญาตให้ขยายโรงงาน ค าสั่งไม่ออก
หรือ ไม่ต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง หรือค าสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบค าสั่ง ค าวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
มาตรา ๑๗ โรงงานใดที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว
หากภายหลัง ปรากฏว่าใช้เครื่องจักรมีก าลังรวมลดลงต่ ากว่าห้าสิบแรงม้าหรือจ านวนคนงานลดลงต่ ากว่าห้าสิบคน
ให้ถือว่าโรงงานนั้นยังเป็นโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะได้แจ้งเลิกประกอบกิจการโรงงาน
มาตรา ๑๘ ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
การขยายโรงงานตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความถึงกรณีดังต่อไปนี้
(๑) การเพิ่มจำนวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรเพื่อประกอบกิจการโรงงานเดิม
หรือ ประกอบกิจการในประเภทหรือชนิดที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิม
ทำให้กำลังรวมเพิ่มขึ้น ในลักษณะ ดังต่อไปนี้
(ก) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมไม่เกินหนึ่งร้อยแรงม้า
(ข) เพิ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมเกินหนึ่งร้อยแรงม้า แต่ไม่เกินห้าร้อยแรงม้า
(ค) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สองร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมเกินห้าร้อยแรงม้า แต่ไม่เกินหนึ่งพันแรงม้า
(ง) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สามร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมเกินหนึ่งพันแรงม้า แต่ไม่เกินสองพันแรงม้า
(จ) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สี่ร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมเกินสองพันแรงม้า แต่ไม่เกินสามพันแรงม้า
(ฉ) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีก าลังรวมเกินสามพันแรงม้า ขึ้นไป
(๒) การด าเนินการตาม (๑) ซึ่งกระท าบนที่ดินแปลงใหม่ที่ติดกับที่ดินที่ตั้งโรงงานเดิม
หรือ ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานไว้เดิม การอนุญาตให้ขยายโรงงานให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของใบอนุญาต
การขอขยายโรงงานและการอนุญาตให้ขยายโรงงาน ให้น ามาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๓ มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม ” มาตรา ๑๒ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๘/๑ การขยายโรงงานตามมาตรา ๑๘ เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ให้ได้รับ ยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต
(๑) เพื่อให้มีการบ าบัดมลพิษหรือเพื่อให้การบ าบัดมลพิษเดิมมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
(๒) เพื่อให้มีมาตรการป้องกันหรือลดเหตุเดือดร้อนร าคาญ
(๓) เพื่อการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรเดิมที่เป็นเครื่องต้นก าลังให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
หรือ เพื่อให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลง
(๔) เพื่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานของเครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
ก่อนการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งผู้อนุญาตทราบเป็นการล่วงหน้า
ไม่น้อยกว่าสามสิบวัน และต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรี
ที่ออกตามมาตรา ๓๒ การแจ้งตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง เครื่องจักรที่เกิดจากการด าเนินการตามมาตรานี้
ให้ถือเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการ โรงงาน ” มาตรา ๑๓ ให้ยกเลิกความ
ในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๑๙ เมื่อผู้รับใบอนุญาตเพิ่มจ านวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรที่ใช้ใน การผลิต
เครื่องจักรที่ใช้เป็นเครื่องต้นก าลัง เครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับการบ าบัดมลพิษ
หรือมาตรการ ป้องกันหรือลดเหตุเดือดร้อนร าคาญ หรือพลังงานของเครื่องจักรเป็นอย่างอื่น
อันท าให้เครื่องจักรมีก าลัง แรงม้ารวมลดลง หรือเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึงขั้นขยายโรงงาน
หรือเพิ่มเนื้อที่อาคารโรงงานออกไป หรือก่อสร้าง อาคารโรงงานเพิ่มขึ้นใหม่
เพื่อประโยชน์แก่กิจการของโรงงานนั้นโดยตรงอันท าให้เนื้อที่ของอาคารโรงงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าร้อยตารางเมตรขึ้นไป
ในกรณีเนื้อที่ของโรงงานมีไม่เกินสองพันตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้น ตั้งแต่หนึ่งพันตารางเมตรขึ้นไป
ในกรณีเนื้อที่ของโรงงานมีเกินกว่าสองพันตารางเมตร ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้น
แจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการด าเนินการดังกล่าว
การด าเนินการตามวรรคหนึ่งที่เป็นการเพิ่มจ านวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรต้อง ด าเนินการในโรงงาน
หรือที่ดินเดิมที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานแล้ว และต้องเป็นไป
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด การแจ้งการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดในกฎกระทรวง เครื่องจักรที่เกิดจากการด าเนินการตามมาตรานี้
ให้ถือเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบ กิจการโรงงาน ” มาตรา ๑๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๙/๑
แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “มาตรา ๑๙/๑ เมื่อผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะเพิ่มประเภท
หรือชนิดของการประกอบกิจการ โรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิม
ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า สิบห้าวันก่อนการด าเนินการ
การด าเนินการตามวรรคหนึ่งต้องด าเนินการในโรงงานหรือที่ดินเดิมที่ได้รับอนุญาต
หรือได้รับ อนุญาตให้ขยายโรงงานแล้ว และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด
การแจ้งการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๕ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๒๑ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่อาจตั้งโรงงานหรือตั้งโรงงานแล้ว
แต่ไม่อาจเริ่มประกอบ กิจการโรงงานได้ภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว
ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นสามารถโอนใบอนุญาตได้ โดยให้ผู้ซึ่งประสงค์จะรับโอนใบอนุญาต
ยื่นค าขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่ วันที่มีการโอนใบอนุญาต
ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน เมื่อได้ยื่นค าขอแล้ว
ในระหว่าง ที่รอการพิจารณาอนุญาตจากผู้อนุญาต ให้ถือเสมือนว่าผู้ยื่นค าขอนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต
และให้ถือว่า ผู้รับใบอนุญาตเดิมมิได้เป็นผู้รับใบอนุญาตตั้งแต่วันที่มีการโอนใบอนุญาต
ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน อีกต่อไป
ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตโอนการประกอบกิจการโรงงาน ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือ ขายโรงงาน
ให้ถือว่าผู้นั้นได้เลิกประกอบกิจการโรงงานตั้งแต่วันที่มีการโอนการประกอบกิจการโรงงาน
ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน ให้ผู้รับโอนการประกอบกิจการโรงงาน
ผู้เช่าหรือผู้เช่าซื้อโรงงาน หรือผู้ซื้อโรงงานตามวรรคสอง ยื่นค าขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในสามสิบวัน
นับแต่วันที่ถือว่ามีการเลิกประกอบกิจการ โรงงานตามวรรคสอง และเมื่อได้ยื่นค าขอแล้ว
ในระหว่างที่รอการพิจารณาอนุญาตจากผู้อนุญาต ให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้
โดยให้ถือเสมือนว่าผู้ยื่นค าขอนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต การขอรับโอนใบอนุญาต
และการอนุญาตให้โอนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งและวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวต้องระบุระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตไว้ด้วย”
มาตรา ๑๖ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๒๒ ในกรณีผู้รับใบอนุญาตตาย
ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกยื่นค าขอรับโอน ใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
หรือภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาต พิจารณาก าหนดเพิ่มเติมให้ตามความจ าเป็น
หากไม่ได้ยื่นค าขอภายในระยะเวลาที่ก าหนด และผู้นั้น ประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไป
ให้ด าเนินการขอรับใบอนุญาตใหม่ ”
มาตรา ๑๗ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๒๘ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดประสงค์จะเลิกประกอบกิจการโรงงาน
ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อ ผู้อนุญาตไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันเลิกประกอบกิจการ
ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่า โรงงานตามวรรคหนึ่งมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย
หรือ ความเดือดร้อนแก่บุคคล ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน
ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่สั่ง ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นแก้ไขปรับปรุงโรงงานภายในระยะเวลาที่ก าหนดได้
และให้ถือว่าผู้นั้นมีฐานะเสมือน เป็นผู้ประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะด าเนินการตามค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
หากผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคสอง ให้น ามาตรา ๔๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
การแจ้งเลิกประกอบกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่ก าหนดใน กฎกระทรวง ” มาตรา ๑๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๘/๑
แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “มาตรา ๒๘/๑ ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลง
โรงงานจ าพวกที่ ๓ เป็นโรงงาน จ าพวกที่ ๑ หรือโรงงานจ าพวกที่ ๒ แล้วแต่กรณี
ให้แจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงานตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ก าหนดในกฎกระทรวง
และเมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต่อไป ให้ด าเนินการตามที่บัญญัติไว้
ในพระราชบัญญัตินี้ ส าหรับการประกอบกิจการโรงงานจ าพวกดังกล่าว ”
มาตรา ๑๙ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๓๓ เมื่อโรงงานจ าพวกที่ ๒ หรือโรงงานจ าพวกที่ ๓ หยุดด าเนินงานติดต่อกันเกินกว่า หนึ่งปี ผู้ประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ ๒ หรือผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ ๓ แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันพ้นก าหนดหนึ่งปี ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่งประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไป ให้ด าเนินการตามแต่กรณี ดังนี้ (๑) ผู้ประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ ๒ ให้แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ก่อนเริ่มประกอบกิจการ (๒) ผู้ประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ ๓ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตก่อนจึงจะประกอบ กิจการโรงงานต่อไปได้ ในการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ ๓ ต่อไปนั้น ถ้าผลการตรวจสอบของ พนักงานเจ้าหน้าที่ปรากฏว่าโรงงานและเครื่องจักรมีลักษณะถูกต้องตามมาตรา ๘ ประกาศของรัฐมนตรี ที่ออกตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ และเงื่อนไข ที่ก าหนดไว้ในใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีค าสั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้ หากมีกรณี ที่ไม่ถูกต้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่ก าหนด
เมื่อได้แก้ไขแล้ว ให้ผู้อนุญาตมีค าสั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้
การอุทธรณ์ค าสั่งของผู้อนุญาตตามวรรคสาม ให้น ามาตรา ๑๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ”
มาตรา ๒๐ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๔๗ ผู้ใดท าการตรวจสอบหรือรับรอง หรือจัดท ารายงานผลการตรวจสอบหรือ รับรองโดยไม่มีใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ ผู้ตรวจสอบเอกชนผู้ใดจัดท ารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองอันเป็นเท็จหรือจัดท ารายงานผล การตรวจสอบหรือรับรองในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับ ผู้ท าการตรวจสอบหรือรับรอง
หรือจัดท ารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองโดยไม่มีใบอนุญาตตรวจสอบ หรือรับรอง ”
มาตรา ๒๑ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๔๗/๑ และมาตรา ๔๗/๒ แห่งพระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “มาตรา ๔๗/๑ ผู้ประกอบกิจการโรงงานผู้ใดไม่ด าเนินการตามมาตรา ๙ วรรคสอง ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท มาตรา ๔๗/๒ ผู้ตรวจสอบเอกชนผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๙/๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินห้าพันบาท ”
มาตรา ๒๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๕๑ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๑๘/๑ วรรคสอง มาตรา ๑๙ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๑๙/๑ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๘/๑ หรือมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท”
มาตรา ๒๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๕๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ๒๘ วรรคสอง หรือมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจ า ทั้งปรับ
และให้ปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง”
มาตรา ๒๔ ให้ยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
และ ให้ใช้อัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา ๒๕ บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ จนกว่า จะมีกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การด าเนินการออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตามวรรคหนึ่ง
ให้ด าเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถด าเนินการได้
ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผล ที่ไม่อาจด าเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
มาตรา ๒๖ ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งออกให้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่า จะมีการเลิกประกอบกิจการโรงงานหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา ๒๗ บรรดาค าขอที่ได้ยื่นไว้หรือการแจ้งที่ได้ด าเนินการก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้ถือว่าเป็นค าขอหรือการแจ้งตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ และให้ด าเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ค าขอหรือการแจ้งดังกล่าวมีข้อแตกต่าง ไปจากค าขอหรือการแจ้งตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้อนุญาตหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแต่กรณี มีอ านาจสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมค าขอหรือการแจ้งเพื่อให้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ได้
มาตรา ๒๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว ท าให้บทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะหลักเกณฑ์การควบคุมการประกอบกิจการโรงงานที่มีความเข้มงวดและล่าช้า อันสร้างปัญหาและ อุปสรรคต่อการประกอบกิจการโรงงาน สมควรเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การควบคุมการประกอบกิจการโรงงานใหม่ เพื่อให้การควบคุมการประกอบกิจการโรงงานเป็นไปเพียงเท่าที่จ าเป็น เกิดความรวดเร็ว ประหยัด และ ลดภาระแก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานโดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการโรงงานขนาดเล็ก โดยการปรับปรุงขั้นตอนและ ระยะเวลาการพิจารณาของผู้อนุญาตและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายให้มีความชัดเจน ลดการใช้ดุลพินิจ ยกเลิกการก าหนดให้มีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และแก้ไขเพิ่มเติมบทก าหนดโทษ รวมทั้ง ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
Share
Share :
COPY
Copyright © 2025
suetronginspector.lnwshop.com
All rights reserved.
ตะกร้า
(
0
)
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ยังไม่มีบัญชีเทพ
สร้างบัญชีใหม่
ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
Suetrong Inspector
รับตรวจสอบอาคาร โดยวิศวกรผ่านการอบรมการตรวจสอบอาคารและมีใบอนุญาติขึ้นทะเบียน ผู้ตรวจสอบอาคารแบบบุคคล รับตรวจสอบอาคาร ตึกสูง คอนโดมิเนียม อาคารพักอาศัย สถานบันเทิง โรงงาน ป้ายโฆษณา และอื่นๆ ทั่วประเทศ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร รับตรวจสอบอาคาร ทั้งแบบตรวจสอบใหญ่และตรวจสอบประจำปี ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ติดต่อได้ที่ โทร.081-3803309
เบอร์โทร :
Tel.
081-380 3309
อีเมล :
Email. 3803309@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหา
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP
เลื่อนขึ้นบนสุด
คุณมีสินค้า
0
ชิ้นในตะกร้า
สั่งซื้อทันที
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
ดูสินค้าในตะกร้า
เริ่มการสั่งซื้อ
➜
เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม
พูดคุย-สอบถาม
อีเมล Email. 3803309@gmail.com
โทร Tel.081-380 3309
suetronginspector/